สินเชื่อเงินกู้ แหล่งเงินกู้

วิธีปลดหนี้ให้เร็วที่สุด

สำหรับเพื่อนๆที่มีปัญหา เรื่องหนี้สินแล้วต้องการหาทางออกวันนี้ผมขออนุญาติเขียนบทความ เป็นแนวทาง เพื่อให้ท่านสามารถปลดหนี้ให้ได้เร็วที่สุด

   ขั้นแรก คุณต้องเปลี่ยนแปลงที่ตัวคุณเองก่อน…. เลิกอยากได้อะไรที่ไม่จำเป็น เลิกอยากได้ของฟุ่มเฟือย เช่น เห็นเพื่อน มีมือถือรุ่นใหม่ก็อยากได้บ้าง ทั้งๆของเก่าก็ยังใช้ได้อยู่แต่ก็ ยังอยากได้ของใหม่ซึ่งจะทำให้เราเป็นหนี้เพิ่มขึ้น โดยใช่เหตุ ถ้าหากเราลดกิเลสของเราได้ ต้นตอของปัญหาก็จะหมดไป..

   ขั้นตอนต่อไปเมื่อลดการก่อหนี้ได้แล้ว ก็มาถึงการสำรวจหนี้สินของตัวเองว่ามีอะไรบ้าง ดอกเบี้ยเท่าไหร่ กี่งวดถึงจะหมด มีหนี้ก้อนไหนที่จำเป็นต้องจ่ายก่อน  ให้เรียงลำดับความสำคัญให้ดี เช่น ดอกเบี้ยจากบัตรเครดิตจะค่อนข้างสูงก็ควรจะให้รีบ หาเงินมาโปะตรงส่วนนี้ก่อน ส่วนไหนที่ไม่จำเป็นต้องรีบโปะก็ไม่ต้อง ยกตัวอย่าง เช่น ค่างวดรถยนต์ เพราะไฟแนนซ์ส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยตายตัวไปแล้ว

   เมื่อสำรวจตัวเองและรู้แล้วว่าต้องชำระตรงส่วนไหนก่อน คราวนี้ก็มาถึงเป็นการ ประหยัดอดออมลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่นจากที่เคยขับรถยนต์ไปทำงาน ต้องเติมน้ำมัน วันละเป็นร้อย ถึงหลายร้อย ก็เปลี่ยนใหม่หันมานั่งรถเมล์หรือรถไฟฟ้าหรือรถ มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ราคาถูกกว่าแทน…. อาหารก็อาจจะทำ แล้วห่อไปทานที่ทำงาน   ในการลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น ต้องไปอายใคร ใครอยากหมดหนี้อย่าไปสนใจใคร ใครจะว่ายังไงก็ช่างใครจะมี อะไรมาโชว์ ก็ไม่ต้องไปสนใจ ตอนนี้มีของอะไรใหม่ๆก็เหมือนจะมีความสุขแต่พอนานไปมันก็กลายเป็นของเก่าอยู่ดี เชื่อผมเถอะว่าการไม่เป็นหนี้มีความสุขความมีของใหม่ๆตามเทรนด์เยอะ

   วิธีที่จะปลดหนี้ให้ได้เร็วที่สุด จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ด้วย นั่นคือการหารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ รายได้เสริมก็มีหลายทางท่านอาจจะใช้ skill ในอาชีพการงานของท่านไปรับจ้างงานนอก คือต้องนอกเวลางานนะครับไม่ได้ทำในเวลางาน เพราะคุณอาจจะโดนไล่ออกและกลายเป็นปัญหาหนักกว่าเดิม แนะนำให้ทำงานเสริมหลังเลิกงาน  แทนที่จะเอาเวลาไปกินเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนหรือ ไปนั่งดูละครก็ให้เอาเวลามาหารายได้ตรงส่วนนี้จะเป็นทางออกที่ดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีอาชีพ เป็นแม่ครัว หลังเลิกงานก็อาจจะทำข้าวกล่องขายหรือทำอาหารแปรรูปง่ายๆขายก็ได้ ถ้าหากไปได้ดีคุณก็จะปลดหนี้ได้เร็วและท้ายที่สุดอาจจะได้เป็นถึงเจ้าของกิจการจากงานเสริมหลังเลิกงานนี่หล่ะ

มาปลดนี้ให้เร็วที่สุดกันเถอะครับ เพื่ออิสรภาพการใช้ชีวิตที่แท้จริง ^^

ที่ผ่านมามีกรณีที่ ผู้เซ็นค้ำประกันเงินกู้ แล้วคนกู้ไม่ยอมชำระหนี้ จนผู้ค้ำประกันต้องโดนฟ้องอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว วันนี้เลยขอพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกันครับ

เ

ในกรณีที่ผู้กู้เงินไม่ยอมชำระหนี้ แล้วไม่ยอมติดต่อ ไม่ยอมไปขึ้นศาลตามหมายเรียกเลย ทางสถาบันการเงินก็หันมาฟ้องร้องผู้ค้ำประกันแทน (สำหรับคนค้ำประกัน ที่โดนแบบนี้ถือว่าซวยมาก ออกเเนวเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง  แถมยังเอากระดูกมาแขวนขอ) แต่ตามกฎหมายผู้กู้เงินต้องรับผิดชอบหนี้ที่ก่อขึ้้น ก่อนผู้ค้ำประกัน ดังนั้นถ้าผู้ค้ำประกันหาทางพิสูจน์ได้ว่าผู้กู้เงิน สามารถชำระหนี้ได้หรือมีทรัพย์สินที่สามารถขายนำมาชำระหนี้ได้… ทางสถาบันก็จะต้องไปบังคับการชำระหนี้จากผู้กู้เงินก่อน แต่ถ้าผู้ค้ำประกันได้ชำระหนี้แทนไปแล้ว แล้วมารู้ทีหลังว่าจริงๆแล้วผู้กู้นั้นสามารถชำระหนี้ได้แต่ไม่ยอมชำระ … ผู้ค้ำประกันก็สามารถฟ้องเอาเงินต้นและดอกเบี้ยจากผู้กู้ได้

และสำหรับผู้ค้ำประกันที่ยังไม่โดนเบี้ยว แต่เริ่มรู้สึกเสียวสันหลัง อยากจะยกเลิกการค้ำประกัน .. ก็ให้ลองติดต่อไปทางสถาบันการเงินที่ทำสัญญาดู แต่ส่วนใหญ่จะไม่ยกเลิกให้ครับ

ทิ้งท้ายไว้ครับ “การไม่เซ็นค้ำประกัน คือลาภอันประเสริฐ” 

ที่มา http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=6363
ที่มา http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=6363

ธปท.ลบข้อมูลผู้ติดเครดิตบูโรถึงหกแสนราย

ข่าวล่ามาเร็วนี้ถือเป็นข่าวดีของผู้ที่ติดเครดิตบูโรอยู่ เพราะทาง ธปท. มีนโยบายคืนความสุขให้ประชาชน โดยการลบข้อมูลประวัติค้างชำระหนี้ในเครดิตบูโร

ขออนุญาติยกเนื้อหาข่าวบางข้อความมาจาก inn news ครับ “นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบัตรเครดิต เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบัตรเครดิตครั้งแรกของปี 2557 มีมติเห็นชอบให้ลบข้อมูลลูกหนี้ค้างชำระหนี้เกิน 90 วัน หรือลูกหนี้เอ็นพีแอล จำนวน 6 แสนราย ออกจากข้อมูลเครดิตบูโร”

 แต่ก็อย่าพื่งดีใจเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกยกเลิกรายชื่อ สำหรับการยกเลิกข้อมูลเครดิตบูโรครั้งนี้จะมีเฉพาะผู้ที่เป็นลูกหนี้ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง(พ.ศ.2540) ที่มียอดหนี้ไม่มาก และได้ชำระหนี้ไปหมดแล้ว โดยนโยบายนี้เกิดขึ้นมาช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในครัวเรือนที่มีเพิ่มสูงขึ้น ..เมื่อมีการยกเลิกรายชื่อเครดิตบูโร ก็จะสามารถดึงให้ประชาชนมาขอสินเชื่อที่ถูกต้องตามกฏหมายได้   

และสำหรับท่านที่ไม่ได้เป็นลูกหนี้ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะศูนย์เครดิตบูโรปรับหลักเกณฑ์ใหม่ โดยจะเก็บข้อมูลลูกหนี้ไว้ในระบบเป็นเวลาเพียง 8 ปี ซื่งจะช่วยให้ประชาชนได้มีโอกาสกู้เงินจากสถาบันการเงินได้มากขึ้น และช่วยลดการกู้ยืมหนี้นอกระบบให้ลดน้อยลง

ที่มา inn news

สำหรับท่านที่อยากรู้ว่าตัวเองยังติดเครดิตบูโรอยู่หรือไม่ให้ดูวิธีเช็คได้ที่ http://www.romchatgroup.com/loan/เช็คข้อมูลเครดิตบูโร/